ข่าวประชาสัมพันธ์ 

จังหวัดสงขลา บูรณะ และปรับภูมิทัศน์ บริเวณศาลาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ “วัดแหลมบ่อท่อ" อำเภอกระแสสินธุ์ เพื่อใช้ในพิธีประกอบพลีกรรมตักน้ำ วันที่ 6 เม.ย. 62

วันนี้ (4 มี.ค. 62) นางสมศรี รักนุ้ย วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายผดุงเดช ลือปิยะพาณิชย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา และนางมุจรินทร์ ทองนวล ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา ลงพื้นที่สำรวจแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดสงขลา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดสงขลา เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยวันนี้เป็นการลงพื้นที่ตรวจดูความพร้อมในเรื่องของปริมาณน้ำ ความสะอาดของบ่อและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งมีปริมาณน้ำที่เพียงพอ น้ำใส และสะอาด

นางสมศรี รักนุ้ย วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา กล่าวว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระราชพิธีที่สำคัญ ซึ่งทุกจังหวัดต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยให้มีการบูรณะ และรักษาความสะอาด เพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 6 เมษายน 2562 สำหรับจังหวัดสงขลาได้คัดเลือกบ่อน้ำวัดแหลมบ่อท่อ ซึ่งตั้งอยู่ตั้งอยู่ หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะใหญ่ ใกล้ที่วัดแหลมบ่อท่อ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จะใช้ในงานพระราชพิธีดังกล่าว และเป็นบ่อที่เคยใช้ในการประกอบพระราชพิธีสำคัญมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และในเนิ่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554

สำหรับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดแหลมบ่อท่อ มีประวัติเล่าสืบต่อกันมาว่า มีพระรูปหนึ่ง ชื่อ “พระสินนารายณ์” และ “ขุนวิชัยพรหมศานส์” ซึ่งเป็นฆราวาสได้เดินทางจากประเทศอินเดียสู่กรุงศรีอยุธยา เป็นผู้สร้างบ่อน้ำนี้ไว้ มีน้ำสะอาดใสตลอดปี สมัยก่อนชาวบ้านเรียกว่าบ่อทอง เนื่องจากมีผู้เฒ่าหลายท่านเล่าสืบต่อกันมาว่าในบ่อน้ำมีทองแม่ขัน โดยเจ้าของทองนั้นได้เข้าฝันชาวบ้านว่าถ้าใครได้ทอง เมื่อวันคี่คืนดี ก็ให้ไปเอาได้ แต่มีข้อแม้อยู่ว่าเมื่อผู้ใดได้ทองไปแล้วจะต้องรับแผลเปื่อยเท่ากับหอยไปจนตาย ปรากฏว่าไม่มีใครกล้าเพราะกลัวจะทรมานไปจนตลอดชีวิต ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านเรียกว่า บ่อทอง หรือบ่อทรัพย์ มาโดยตลอด ปัจจุบันชาวบ้านในจังหวัดสงขลายังไปตักน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดแหลมบ่อท่อ ไปใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนา หรืองานมงคลต่าง ๆ บางคนน้ำไปใช้ในการรักษาอาการเจ็บป่วย อีกด้วย
 
ที่มาข้อมูล : ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด ผู้สื่อข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

จำนวนการเข้าชม 3,556 ครั้ง