พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” แก่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ใน “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ” แห่งที่ 18
ห้ “โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี” ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)”
ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” ให้กับ “โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี” เป็นแห่งที่ 18
โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้ 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่
ซึ่งห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวมีการแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมมีระบบฆ่าเชื้อ
ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยสามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ในเวลาเพียง 3 วัน ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19
ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งประชาชนที่มาตรวจรักษา ยังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า
ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ทั้งนี้ พิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายมนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
และนายปรเมศวร์ นิสากรเสน Vice President-Regional Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ร่วมพิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว
สำหรับ นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนี้
• ภายในห้องตรวจมีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และมีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี
• ทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก
• การเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง ช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้เข้ารับการตรวจ
• ใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังการใช้งานทุกครั้ง
• โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต จึงสามารถติดตั้งที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการใช้งาน
ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดย “เอสซีจี” ได้แก่
1. โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ
2. โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
3. โรงพยาบาลกลาง
4. สถาบันโรคทรวงอก
5. สถาบันบำราศนราดูร
6. โรงพยาบาลตำรวจ
7. โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา
8. โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
9. โรงพยาบาลนครปฐม
10. โรงพยาบาลราชบุรี
11. โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
12. โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
13. โรงพยาบาลอุตรดิตถ์
14. โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
15. โรงพยาบาลนครพิงค์
16. โรงพยาบาลอุดรธานี
17. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
18. โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
19. โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
20. โรงพยาบาลหาดใหญ่