ข่าวเด่น 

วันฉัตรมงคล พุทธศักราช ๒๕๖๓



วันฉัตรมงคล พุทธศักราช ๒๕๖๓
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย
ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
นับเป็นวันมหามงคลของชาติ และวันบรมราชาภิเษกอย่างสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี
และนับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๖๓ เป็นต้นไป จะเรียกว่าวันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกครบรอบปีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ด้วยเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดให้วันที่ ๔ พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล
 
ย้อนหลังไปปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้น ระหว่างวันที่ ๔ – ๖ พฤษภาคม การพระราชพิธีสำคัญ ดังนี้
 
  วันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ พิธีสรงพระมูลธาภิเษก พิธีถวายน้ำอภิเษก ถวายพระสุพรรณบัฎ เครื่องราชกกุธภัณฑ์ และได้มีพระปฐมบรมราชโอง ว่า
“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสุทิดา เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลรัตน์ พระบรมราชินี
เสด็จออกมหาสมาคม พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ตัวแทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และผู้แทนปวงชนชาวไทย
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล

 
 วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒  ระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย
และ
สถาปนาฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน
จากนั้นเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคเพื่อให้พสกนิกรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทชื่นชมพระบารมี
ณ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม

 
วันที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เสด็จออก ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท พระบรมมหาราชวัง
พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะรัฐมนตรี ผู้แทนศาสนา ผู้แทนคณะพาณิชย์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล
เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พสกนิกรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล
และเสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ให้คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล
 
วันที่ ๑๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
จากท่าวาสุกรี ไปยังท่าราชวรดิฐ และขบวนราบจากท่าราชวรดิฐ เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
 
นับตั้งแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยดำเนินรอยตามพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไม่ว่าจะเป็นการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทฤษฎีใหม่
มาปรับใช้ในการวางรากฐานโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้ง อาทิ โครงการพัฒนาชุมชนเครือข่ายลุ่มน้ำแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
โครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี และทรงรับเป็นที่ปรึกษาโครงการอนุรักษ์ช้างป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด ในภาคตะวันออก
หรือที่พระองค์พระราชทานนามว่า โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์  ซึ่ง แปลว่า น้ำทิทย์รักษาช้างให้แข็งแกร่งยืนยงดุจเพชร
และโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นต้น
ทรงใส่พระราชหฤทัยในทุกข์ สุขของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญที่จะดูแลประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
และบรรเทาทุกข์ยากเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือ COVID -19
พระราชทานความช่วยเหลือในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือแพทย์  อุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย และถุงยังชีพ

สมดังพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

 
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันบรมราชาภิเษก วันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ขอถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
 
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้จัดทำเพจพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 
 และเว็บไซต์ coronation/index.php
จำนวนการเข้าชม 4,891 ครั้ง